“WHAT THE HELL WEDO” เปิดบ้านสุดยอดนวัตกรรมในงาน SCG Digital Innovation Garage Open House
ท่ามกลางยุคที่เต็มไปด้วยการแพร่กระจายของโควิด-19 วิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป หลายองค์กรจึงจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อสร้างสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น เอสซีจีเองก็เช่นกัน ภาพจำของใครหลายคนอาจรู้จักเอสซีจีในนามของบริษัทผลิตปูนซีเมนต์ แต่จริง ๆ แล้ว เอสซีจียังนำเสนอทั้งนวัตกรรม smart living, energy transition และมีการขยายธุรกิจไปที่ประเทศอาเซียนต่าง ๆ อีกด้วย โดยการจัดงาน SCG: The Next Chapter Exposition ในวันที่ 13–16 ธันวาคมที่ผ่านมาจึงเป็นการนำเสนอสินค้าและบริการอื่น ๆ ของ เอสซีจีที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภครวมถึงมีการใช้แนวคิด ESG (Environment, Social, Governance) มาพัฒนาสินค้าและบริการต่าง ๆ เพื่อลดปัญหาวิกฤตสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
หน่วยงาน Digital Office หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนามของ WEDO ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดแสดงเบื้องลึกเบื้องหลังของการสร้างนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เหล่า DODERs และ WEDO Young Talent Program ตั้งใจพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาถึง 3 ปี ภายในงาน SCG Digital Innovation Garage Open House for SCG: The Next Chapter ภายใต้ธีม WHAT THE HELL WEDO โดย SCG Digital Innovation Garage ออฟฟิศของ WEDO ได้เปลี่ยนพื้นที่ภายในให้เป็น Working Innovation Exhibition เพื่อบอกเล่าถึง Bright Side และ Dark Side ในการทำนวัตกรรม จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย!
Self Tour นิทรรศการที่ผู้เข้าร่วมสามารถเดินชมได้เองเพื่อให้เห็นถึงประโยชน์ของนวัตกรรมในด้านต่าง ๆ รวมถึงเบื้องลึกเบื้องหลังการทำงานของนวัตกรที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน โดยแบ่งออกเป็น
Bright Side
WHY WEDO
ในการทำนวัตกรรมของ WEDO ทุกครั้งจะต้อง start with why ว่าทำไมถึงทำนวัตกรรม เพราะไม่ใช่ทุกปัญหาที่สามารถนำนวัตกรรมไปแก้ปัญหาได้ โดยที่โซนนี้พยายามที่จะบอกว่า เมื่อทำนวัตกรรมแล้ว จะช่วยสร้างชีวิตที่ดีขึ้นโดยมีนวัตกรรมที่ inclusive เข้าถึงทุกคนแม้ว่าจะเป็นผู้พิการทางสายตาหรือผู้ป่วยติดเตียงก็ตาม อีกทั้งช่วยสร้างธุรกิจที่ดีขึ้นโดยนำนวัตกรรมมาช่วยให้ core business สามารถขับเคลื่อนได้ไหลลื่นและต่อยอด new adjacent ธุรกิจใหม่ ๆ ในประเทศ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างโอกาสให้ประเทศโดยเป็นหนึ่งในแรงผลักดันเพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างโดยคนไทย
WHAT WEDO
จัดแสดงตัวอย่างของนวัตกรรมน้ำมือคนไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของ Born in Thailand (BiT) ซึ่งชาว DODERs ช่วยกันผลักดันเพื่อสร้างความมั่นใจในการเป็นผู้สร้างนวัตกรรมและเปลี่ยนประเทศไทยจาก User Economy สู่ Maker Economy เป็นจุดสำคัญในการก้าวไปสู่ระบบเศรษฐกิจใหม่ โซนนี้จะมีการโชว์นวัตกรรม 5 ชิ้น ได้แก่ Smart IoT Platform (Trinity) ระบบของ Internet of Things (IoT) ecosystem ที่สร้างความปลอดภัยและความสะดวกสบาย Phygital Design การออกแบบที่ผสมผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือนเพื่อให้สามาถใช้บริการสินค้าง่ายขึ้น SCG ID แพลตฟอร์มที่ช่วยให้สมาชิกเข้าใช้บริการของเอสซีจีได้โดยไม่ต้องสมัครใช้งานใหม่ Offline NLP Enablement (ONE) เทคโนโลยีวิเคราะห์เสียงและภาษาธรรมชาติสามารถสั่งการได้ด้วยเสียงพูดโดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต Brain Computer Interface (BCI) อุปกรณ์อ่านคลื่นสมองเพื่อใช้สื่อสารและสั่งการอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ ได้
WAY-T WEDO
WEDO เชื่อว่า “ทุกนวัตกรรมมีที่มา ทุกนวัตกรมีเรื่องเล่า” โซนที่จึงเน้นให้ผู้ร่วมงานได้มาเข้าใจถึงวิสัยทัศน์และแรงบันดาลใจด้านนวัตกรรม เพื่อผลักดันให้สังคมไทยไปสู่สังคมเชิงสร้างสรรค์ให้ได้ในวงกว้าง
Dark Side
HALL OF FLAME
WEDO เชื่อว่า “เพราะความน่าภูมิใจไม่ใช่แค่เพียงผลสำเร็จ แต่คือความสมัครใจที่จะล้มเหลว (Success Failure) ที่นำมาซึ่งนวัตกรรมที่แท้จริง” โซนนี้จึงเป็นภาพใบหน้าของคน WEDO พร้อมสโลแกนที่แสดงให้เห็นถึงความท้าทายของการทำงานซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจ
THROWPHY
จัดแสดงสิ่งของต่าง ๆ ที่เป็นผลงานจากการลองผิดลองถูกของ DODERs สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่า ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการทำนวัตกรรม ถ้ายังไม่เคยพลาด ไม่เคยผิด แสดงว่าไม่ได้ทำนวัตกรรม และเชื่อว่า “ทุกชีวิตมีสิทธิ์เลือก ชีวิตนวัตกรนั้นไม่ใช่สำหรับทุกคน”
WEDO MORE-NITOR
dashboard ทั้งหมด 4 หน้าที่แสดงให้เห็นว่า กว่าจะทำนวัตกรรมได้ ต้องรับรู้ความเคลื่อนไหวของโลก ต้องรู้ว่าปัจจุบันโลกได้ทำนวัตกรรมอะไรบ้าง และประเทศไทยเมื่อเทียบกับโลกแล้ว เรายังต้องทำมากขึ้น ประกอบไปด้วย WEDO VS WORLD, WE ALL DO, WEDO NOW และ WORLD WILD WRAP นอกจากนี้ยังเล่าถึง partnership เพื่อเน้นย้ำว่าการทำนวัตกรรมต้องมีการร่วมมือกันเพื่อไปสู่ความสำเร็จ (To get there, Together) และเล่าถึงศักยภาพของคนไทยที่จะต้องนำ research ออกสู่ท้องตลาดให้ได้ จึงต้องมีการทำงานร่วมกับภาคการศึกษาด้วย
Guided Tour ที่มีพี่ ๆ ไกด์จาก WEDO พาเดินชมแต่ละจุดภายใน SCG Digital Innovation Garage พร้อมเล่าถึงเรื่องราวน่าสนใจให้ได้ฟังอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น
YTP Showcase
มุมที่ให้เหล่า WEDO Young Talent จาก WEDO Young Talent Program (YTP) มาโชว์ prototype ของนวัตกรรมที่ได้สร้างสรรค์มาและนำเสนอแนวคิดนวัตกรรมของตนเองเพื่อให้เห็นว่า เด็กไทยมีศักยภาพมากกว่าที่คิด
Phygital Design Studio
phygital design studio ที่นี่มีหลายส่วนทั้ง physical design, digital design, researcher และ graphics communication design โดยจัดแสดง Smart Tracker ระบบติดตามตำแหน่งของพนักงาน ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินสามารถกดปุ่มที่ติดไว้ได้ Graphic Communication Design สินค้า Corporate Branding ที่มี concept และความหมายแตกต่างกัน YHIP (หยิบ) retail format ใหม่ที่สะดวกต่อลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อมากขึ้น เครื่องคิดเลขพูดได้ ที่รวมเทคโนโลยี offline NLP เข้ากับ physical design สามารถคิดเลขได้ทั้งบวก ลบ คูณ หารทั่วไปจนถึงแก้สมการยาก ๆ โดยมีแนวคิดที่อยากทำให้เทคโนโลยีสามารถเข้าถึงชีวิตประจำวันของคนไทยในกลุ่มคนที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ผู้พิการทางสายตา
XR Lab
ผู้ที่เข้ามาชมห้องนี้จะได้พบกับ AR Collaboration อุปกรณ์ที่ช่วยให้การสื่อสารเป็นไปได้ง่ายขึ้น แม้อยู่คนละที่แต่สามารถสื่อสารถึงกันได้ BCI หรือ Brain-Computer Interface อุปกรณ์แปลงคลื่นสมองให้ออกมาเป็นเสียงพูด สามารถใช้กับผู้ป่วยอัมพาตติดเตียงเพื่อสื่อสารกับคนใกล้ชิดได้สะดวกมากขึ้น 3D Visualization อุปกรณ์ที่ทำให้เข้าใจการออกแบบบ้านได้ง่ายขึ้น และ Mixed Reality อุปกรณ์ที่สามารถ mixed โลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกันเพื่อใช้จำลองการฝึกของอาชีพต่าง ๆ ในสถานการณ์อันตราย หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งนวัตกรรมนี้ยังได้รับรางวัลจาก NASA อีกด้วย และความพิเศษ คือ ผู้เยี่ยมชมสามารถทดลองใช้งานเครื่องนี้ได้จริง
Media Room
ที่นี่ ผู้เยี่ยมชมจะได้สัมผัสประสบการณ์ metaverse พร้อมรับรู้เบื้องหลังการบันทึกเสียงสำหรับเทคโนโลยี offline NLP ที่สามารถสร้าง speech model เองได้ และยังสามารถถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
Smart Living Technology
ห้อง demo board ที่นำอุปกรณ์จาก partner มาเชื่อมต่อกับ Trinity แพลตฟอร์มควบคุมอุปกรณ์ IoT ของ WEDO เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ให้ดียิ่งขึ้นด้วยต้นทุนที่ถูกลง และทำให้เทคโนโลยีเป็นเรื่องของทุกคน ซึ่งข้อดีของการที่คนไทยพัฒนาเองคือสามารถพัฒนาอุปกรณ์ให้ใช้งานสะดวกมากขึ้น ช่วยเรื่องความปลอดภัย ป้องกันการถูกแฮ็ก สามารถนำข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งานมาพัฒนา ต่อยอดธุรกิจให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้นได้ และมีบริการหลังการขายอย่าง call center ที่สามารถช่วยเหลือผู้ใช้งานเมื่อมีปัญหาได้
NLP lab
ชมเบื้องหลังการพัฒนานวัตกรรมก็อกน้ำพูดได้ ที่มีการนำเทคโนโลยี Offline NLP มาติดตั้งในก็อกน้ำ เพื่อให้สั่งการด้วยเสียงในยุคโควิด-19 เพื่อเลี่ยงการสัมผัสต่อจุดสะสมเชื้อโรค และผู้พิการทางสายตาสามารถใช้งานได้ในทุกพื้นที่โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีอินเทอร์เน็ต
IoT lab
ชมเบื้องหลังการพัฒนา smart living ที่ WEDO เชื่อว่าคนไทยสามารถออกแบบ smart technology เองได้และยังมีการ deploy ใช้งานอย่างจริงจัง รวมถึงยังมีการพัฒนา indoor tracking ที่ยังไม่มีวางจำหน่านในท้องตลาดแต่กำลังเป็นที่ต้องการอีกด้วย
Operation Command Center (OCC)
ปัจจุบันมีคนไทยทีใช้ smart home solution หรือ IoT solution เป็นจำนวนมาก แต่ยังขาดการดูแลรักษาความปลอดภัยในข้อมูล รวมไปถึงการใช้งาน ทำให้เสี่ยงต่อการความปลอดภัยของข้อมูลที่อาจถูกโจรกรรมได้ ห้องนี้จึงทำหน้าที่ควบคุมดูแลอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างปลอดภัย
Lounge เป็ด
นอกจากเรื่องราวของนวัตกรรมแล้ว ยังมีมุมที่เล่าเกี่ยวกับคน เรื่องราวของการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ให้พนักงานสนุกและมี passion ในการทำงาน สร้างบุคลากรยุคและ talent ยุคใหม่ทุกเพศ ทุกวัย ทุกชาติพันธ์ุที่มีความสามารถแตกต่างกันให้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยต่อไปได้ โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ สีสันของมุมนี้คือผู้เข้าชมได้ร่วมฟัง secret sauce พร้อมรับประทานของว่างและเครื่องดื่มสุดพิเศษ จากส่วนผสมของผลไม้ต่าง ๆ รวมไปถึงธัญพืชผสมผลไม้และป็อปคอร์นหลากรสที่แม้รสชาติจะต่างกันแต่กลับมีรสชาติที่เข้ากันได้อย่างลงตัว เปรียบเสมือนคอนเซปต์ของ WEDO ที่ความผสมผสานของเหล่า talent ต่างที่มา เพื่อมาร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมใน “โรงนวัตกรรม” แห่งนี้
และนี่เป็นประสบการณ์ทั้งหมดจาก “WHAT THE HELL WEDO” เปิดบ้านสุดยอดนวัตกรรมในงาน SCG Digital Innovation Garage Open House ที่ได้จัดขึ้นในวันที่ 13 -16 ธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับใครที่พลาดงานนี้ไป ไม่ต้องเสียใจ เพราะสามารถติดต่อเข้ามาเยี่ยมชม “โรงนวัตกรรม” แห่งนี้ได้เรื่อย ๆ ที่ Facebook: WEDO
เขียนโดย พิสินี ตันตราชีวธร YTPGen1, WEDO